สั่งระงับ“กรมเจ้าท่า”ตรวจสอบกำแพงกันคลื่นโรงแรมใหญ่ฯหัวหินพบไม่ได้ขออนุญาต

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

นักท่องเที่ยวร้องเรียนพบการก่อสร้างบนแนวกำแพงเขื่อนกันคลื่นของโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งของหาดหัวหิน ใกล้ทางลงชายหาด เบื้องต้นสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเทศบาลเมืองหัวหิน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด โดยสั่งยุติการดำเนินการชั่วคราว จนกว่าทางโรงแรมจะไปยื่นเอกสารให้ถูกต้อง และมีความผิดตาม พรบ. การเดินเรือตามมาตรา 119  เททิ้งเทกองโดยไม่ได้รับอนุญาต  และพรบ.ควบคุมอาคาร ของเทศบาลเมืองหัวหิน โรงแรมยอมรับว่าเป็นเพียงผู้เช่าจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และทางการรถไฟบอกว่าจะไปแจ้งขออนุญาตเอง ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างไปถึง 80 เปอร์เซนต์เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

                  ( วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 )หลังจากนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่หาดหัวหิน ตั้งข้อสังเกตว่าบริเวณหาดหัวหิน ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ทำไปถึงมีการปิดพื้นที่หาดขึงแสลนรอบซึ่งเป็นที่สาธารณะ และมีก้อนหินขนาดใหญ่บ้างและเล็กลงมาตามลดับกองเอาไว้ รวมทั้งผ้ายเสาหลักของกรมเจ้า ด้วยและมีงานก่อสร้างกำแพงอยู่และไม่มีป้ายติดแสดงเอาไว้แต่อย่างใด จึงอยากให้สื่อมวลชนลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ ว่าเหมาะสมหรือไม่แต่อย่างใดในการดำเนินการบนหาดสาธารณะที่มีชื่อเสียง และยังเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนบริเวณดังกล่าวอีกด้วย

           ล่าสุดวันนี้ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบปัญหาการร้องเรียนและได้สั่งการให้หน่วยงานรับผิดชอบทั้งในส่วนกรมเจ้าท่า และเทศบาลเมืองหัวหินเจ้าของพื้นที่ลงไปตรวจสอบข่อเท็จจริง  โดยนายอภิสิทธิ์ คำภิโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ หลังจากทราบ ได้สั่งการให้นายเสถียรพงษ์ กรีธาธร เจ้าพนักงานตรวจท่า สำนักงานภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว นอกจากนั้นในส่วนของเทศบาลเมืองหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบางเมืองหัวหิน ได้สั่งการให้ นายศุภนพ มัดจันทร์ นักจัดการเทศกิจปฎิบัติการ เทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังบริเวณแนวกำแพงเขื่อนกันคลื่นของโรงแรมโซฟิเทลเซ็นทาราแกรนด์ หัวหิน   และพบกับนางสาวเดือนเพ็ญ เพ็งเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายประกันคุณภาพโรงแรมโซฟิเทลเซนทราแกรนด์ หัวหิน แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเยื่องจากกำแพงกันคลื่นเดิมได้ถูกคลื่นซัดพังเสียหาย จึงได้ดำเนินการซ่อมแซมใหม่และเริ่มลงมือก่อนสร้างในช่วงเดือนเมษายน โดยทางโรงแรมไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตเนื่องจากทางโรงแรมเป็นผู้เช่าพื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และทางการรถไฟจะเป็นผู้ดำเนินการขออนุญาต  จนเพิ่งมาทราบวันนี้จากเจ้าหน้าที่ว่ายังไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด โดยจะรีบดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องโดยทันที  ซึ่งขณะนี้ดำเนินการซ่อมแซมไปแล้ว 80 เปอร์เศนต์ หลังจากนั้นจะหยุดดำเนินการไว้ก่อน และเมื่อเสร็จแล้วจะดำเนินการเก็บวัสดุก่อสร้างบนชายหาดเพื่อคืนธรรมชาติต่อไป

  

                ขณะเดียวกัน นายเสถียรพงษ์ กรีธาธร เจ้าพนักงานตรวจท่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายศุภนพ มัดจันทร์ นักจัดการเทศกิจปฎิบัติการ เทศบาลเมืองหัวหิน และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ตรวจสอบพบว่าแนวกำแพงกันคลื่นที่กำลังดำเนินการอยู่ในเขตพื้นที่ของการรถไฟ ระยะทางประมาณ 80 เมตร ส่วนที่มีวัสดุก่อสร้างทั้งหินขนาดต่างๆที่รื้อออกมาจากกำแพงเดิมที่กองอยู่ตลอดแนว  มีความกว้างประมาณ 5 เมตร นั้นเป็นพื้นที่สาธารณะน้ำท่วมถึงของเขตกรมเจ้าท่าตามที่หลักเสาหินปักเอาไว้  โดยจากการตรวจสอบพบไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาประจวบคีรีขันธ์ แต่อย่างใดโดยเฉพาะการกองเศษวัสดุก่อสร้างลงบนชายหาด รวมทั้งไม่ได้ขออนุญาตดำเนินการจากสำนักงานกองช่างเทศบาลเมืองหัวหิน ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร อีกด้วย ซึ่งทั้งสองกรณีดังกล่าวถือว่ามีความผิด  ดังนั้นจึงสั่งระงับการก่อสร้างไปก่อนจนกว่าทางโรงแรมจะดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของทั้งสองหน่วยงานต่อไป ในส่วนของความผิดของกรมเจ้าท่า ทางโรงแรมมีความผิดตาม พรบ.การเดินเรือตามมาตรา 119 ห้ามิให้ผู้ใดเททิ้ง เทกอง ทั้งหิน กรวด ทราย ดินโคลน สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใด ในที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือทะเลภายในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยหลังตรวจสอบแล้วจะได้รายงานให้ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาประจวบคีรีขันธ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบต่อไป

                    ด้านนายอุดม ศรีมหาโชตะ กรรมการและประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อม สมาคมโรงแรมไทย อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของพื้นที่มีการปรับแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม จะต้องมีการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบว่าการปรับเปลี่ยนปรับปรุงมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เพราะขณะนี้มีการลงมาในพื้นที่ชายหาดซึ่งมีปลกระทบตามที่นักท่องเที่ยวมีการร้องเรียนมา ผมคิดว่าต้องกลับมาดนโยบายในท้องถิ่น กรณีทั้งการก่อสร้างหรือปรับปรุง รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหารที่เข้าไปเปิดใช้พื้นที่ของชายหาดทำกิจกรรมลักษณะต่างๆ เพราะทางสมาคมโรงแรมไทยได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวในลักษณะเช่นนี้มากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ภายของชายหาดหัวหิน เปลี่ยนแปลงไปซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่ดูไม่ดี เพราะนักท่องเที่ยวที่มาหัวหินเมื่อลงมาที่ชายหาดต้องการนั่งพักผ่อน เดินเล่น ลงเล่นน้ำทะเลซึ่งทำให้ภาพของหาดหัวหิน ไม่สวยงาม

อย่าลืม!!!        

ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper

📌กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/prachuappost/
https://www.facebook.com/prachuppost/

***กดเข้ากลุ่ม 👨👩👧👦 กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/groups/387550115078888/

ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน

Website: http://www.prachuppostnews.com/

YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…

Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews

IG : www.instagram.com/ prachuppostnews