Hooyah!! หมูป่ารอดครบทีม 18 วัน ปฏิบัติการกู้ชีวิต โลกต้องจารึก !!

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  • 11
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
    11
    Shares

Hooyah!! หมูป่ารอดครบทีม 18 วัน ปฏิบัติการกู้ชีวิต โลกต้องจารึก !!

กว่า 18 วันของภารกิจการค้นหาและช่วยชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมี่ ที่เข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เต็มไปด้วยปรากฎการณ์หลากหลายที่เป็นที่สุด หนึ่งในนั้นคือ การเดินทางมารวมตัวกันของนักดำน้ำระดับปรมาจารย์โลก ที่อาสาเข้ามาช่วยค้นหา กู้ภัย นำพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงอย่างปลอดภัย

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย (ผบ.ศอร.) แถลงสรุปแผนปฏิบัติการนำ 5 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน รวมไปถึง พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ หน่วย ซีล อีก 4 รวม รวม 9 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายว่า แผนปฏิบัติการณ์ในวันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยทีมเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงทีมหมูป่าและโค้ชเอก ทั้ง 13 ชีวิตถึง มือแพทย์ทุกคน ซึ่งทางญาติ พ่อแม่ พี่น้องของผู้ประสบภัยทั้ง 13 ชีวิต ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ทันทีในคืนนี้ผ่านห้องกระจก ขณะเดียวกัน นายณรงค์ศักดิ์ ยังกราบขอบคุณกำลังใจจากทั้งชาวไทย และชาวโลกที่ส่งให้ที่ปฏิบัติงาน

ส่วนกรณีที่มีการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังลำเลียง หมูป่า ส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีพร้อมส่งฟ้องศาลและศาลตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ยึดโดรน และปรับ 10,000 บาท อีกทั้งขอให้เหตุการณ์ติดถ้ำหลวงครั้งเป็นอุทาหรณ์ และอย่าให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นมาอีก

ย้อนเหตุการณ์ ทีมหมูป่าฯ เข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ให้หลังเรื่องดังกล่าวปรากฎเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปทั่วโลก บรรดาทีมนักดำน้ำเอกชนจากหลายประเทศแจ้งความประสงค์จะเข้าให้ความช่วยเหลือในภารกิจนี้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ทีมกู้ภัยเวียงจันทน์ 1623 จากประเทศลาว ทีมกู้ภัยจากประเทศฟิลิปปินส์ ทีมนักดำน้ำจากประเทศจีน นักดำน้ำจากออสเตรเลีย นักดำน้ำจากประเทศเดนมาร์ก นักดำน้ำจากเบลเยี่ยม และทีมนักดำน้ำจากประเทศอังกฤษ ซึ่งส่งมือพระกาฬระดับโลกมาช่วยถึง 10 คน ประกอบด้วย

1.Robert Harper
2. Richard Stanton
3. John Volamthen
4. Joshua Bratchley
5. Gary Mitchell
6. Michael Clayton
7. Connorstuart Roe
8. Christopher Jewell
9. Jason Mallinson
10. Martin Ellis

ทั้งหมด ทยอยเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านการสนับสนุนของสายการบินไทย และ สายการบินไทยสไมล์ ในการนำส่งถึงจุดหมายเพื่อปฏิบัติภารกิจ เกือบทั้งหมดออกเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ก็มีบางคนออกสตาร์ทจากประเทศอื่นแล้วมุ่งหน้ามาประเทศไทย เช่น กรุงโคเปนเฮเกน จากเดนมาร์ก กรุงเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นการปฏิบัติภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา  สัมภาระที่เหล่าฮีโร่ขนมาเพื่อภารกิจนี้ บางรายมีนำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ทั้งถังอากาศ ชุดดำน้ำ เครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆที่จำเป็น ถูกขนขึ้นเครื่องเดินทางมาอย่างเร่งด่วน

จากการรายงานข่าวของต่างประเทศ ได้บรรยายถึงภารกิจนี้ว่าเป็นครั้งแรกของโลกในการกู้ภัยลักษณะนี้ ที่ผ่านมาอาจมีการหลงถ้ำ ติดถ้ำ ติดเหมือง แต่ครั้งนี้ เป็นการติดค้างในถ้ำที่มีตัวแปรเรื่องสภาพน้ำและสภาพภูมิอากาศ เป็นปัจจัยเร่งในการค้นหาและให้ความช่วยเหลือ การทำหน้าที่ของฮีโร่เหล่านี้จึงถูกกดดันด้วยเงื่อนเวลาเป็นสำคัญ เพราะยิ่งนาน ระดับน้ำยิ่งสูงขึ้น แม้จะมีเหล่าจิตอาสาจากเอกชนของไทยจำนวนมาก เข้ามาร่วมภารกิจ สูบน้ำออกจากถ้ำ แต่ก็ยากที่จะต้านทานธรรมชาติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการพบเจอทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่บนเนินนมสาวลึกเกือบปลายถ้ำแล้ว แต่ยังไม่สามารถพาตัวออกมาได้ กลับมีเงื่อนไขเรื่องพายุที่จ่อจะพัดเข้าสู่พื้นที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้ามารออีก การตัดสินใจและค้นหาวิธีการพาตัวทั้ง 13 คนออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย จึงต้องเร่งทำภายในเวลาที่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ จ่าทหารนอกราชการของหน่วยซีลประเทศไทย เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยแล้ว การตัดสินใจพา 13 ชีวิตออกมาจึงต้องคิดแล้วคิดอีกในทุกมุมทุกด้านด้วยความรอบคอบอย่างที่สุด

นายแพทย์ Richard Harris จากออสเตรเลีย แพทย์ผู้มีประสบการณ์การดำน้ำนับสิบปี ได้เป็นผู้ประเมินสภาพร่างกายของทั้ง 13 ชีวิตและตัดสินใจให้ไฟเขียว ในการพาตัวทั้งหมดออกมา กระทั่งนำมาสู่ปฏิบัติการ ดีเดย์พาหมูป่า ออกจากถ้ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนสามารถนำทั้งหมดออกมาได้ครบทั้ง 13 คนในวันนี้ ( 10 กรกฎาคม ) ท่ามกลางกำลังใจของคนไทยและคนทั้งโลก

ถือเป็นการรวมพลังผู้คนจากทั่วโลกครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ที่ต่างพร้อมใจกันมาเพื่อให้ความช่วยเหลือคนแปลกหน้า ที่มีคนอยากเจอมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง

หลังเหตุการณ์นี้จบลง บันทึกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว ยังมีเรื่องราวอีกมากมายหลายมุม ที่เป็นประโยชน์ เป็นบทเรียน ให้สังคมเรียนรู้และนำข้อมูลไปปรับ พัฒนา การทำงานของตนเองได้อีกมาก เพื่อการทำงานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นหากเกิดสถานการณ์ใดๆขึ้นอีกในภายภาคหน้า

สำคัญที่สุดของ เหตุการณ์นี้ คือ เรื่องราวนี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนอย่างหนึ่งว่า เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกใบนี้ ยังพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยไม่แบ่งเชื้อชาติ สีผิว นำมาซึ่งรอยยิ้มและความสุข ที่ไม่อาจประเมินค่าได้แม้จะต้องแลกกับการทุ่มเทสรรพำลัง แรงใจแรงกาย เพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย….

 

ประจวบโพสต์นิวส์  / Prachuppost

 

 

  • 11
    Shares