ชาวไร่เขาจ้าวปราณบุรี พบช้างป่าบาดเจ็บที่ขาขวา

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

จนท.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  และสัตวแพทย์เร่งช่วยช้างป่าเพศผู้  อายุประมาณ 20-25 ปีได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวาเดินขาลากไปกับพื้น  ที่ป่าบ้านท่าวังหิน ต.เขาจ้าว  อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์  พร้อมเฝ้าสังเกตุอาการต่อเนื่อง

                            ประจวบคีรีขันธ์-วันที่ 10 ธันวาคม 2563นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นางสาวสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้รับแจ้งจากนายประสบโชค ชูช่วย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านท่าวังหิน ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี ว่ามีชาวไร่พบช้างป่าลักษณะคล้ายบาดเจ็บออกมายืนหากินอยู่ริมถนนชายป่าใกล้ไร่มะม่วงของชาวบ้าน จึงเข้าตรวจสอบพบเป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 20 – 25 ปี น้ำหนักประมาณ 3 ตันมีอาการบาดเจ็บที่ขาพับในข้างขวาและขาขวามีอาการบวม ลักษณะการเดินของช้างจะเดินแบบขาลากไปกับพื้น  จึงประสานสัตวแพทย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ นำโดยสัตวแพทย์หญิง ภาวิณี  แก้วแกม และทีมสัตวแพทย์เข้าประเมินอาการเพื่อเตรียมการรักษาในเบื้องต้นโดยให้ยาแก้อักเสบ ลดปวด ลดบวม เพื่อบรรเทาอาการเจ็บขาและลดอาการบวมของขา เป็นยาเม็ดแบบกินโดยนำเม็ดยายัดใส่ไว้ในผลไม้ แล้วนำไปวางยังบริเวณที่ช้างอยู่ ผลปรากฎว่าช้างป่าออกมากินผลไม้ที่ใส่ยาไว้จนหมด

                     นายพิชัย  กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการประเมินอาการของช้างที่บาดเจ็บยังมีสภาพแข็งแรง ไม่ผอม หรืออิดโรยแและยังเดินวนเวียนอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนสาเหตุอาการบาดเจ็บยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด  เนื่องจากบาดแผลอยู่ขาพับด้านในมองไม่เห็นและไม่สามารถเข้าใกล้เพื่อตรวจสอบอาการได้ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานเฝ้าติดตามอาการของช้างป่าอย่างใกล้ชิด โดยทีมสัตวแพทย์ได้จัดยาบรรเทาอาการบาดเจ็บเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฯเอาให้ช้างกินและเฝ้าดูอาการต่อเนื่อง

อย่าลืม!!!

ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper

?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/prachuappost/
https://www.facebook.com/prachuppost/

***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/groups/387550115078888/

Website: http://www.prachuppostnews.com/

…………………………………………………………………………