หัวหิน!!! ตั้งศูนย์ฯรับมือ”โคโรน่าไวรัส” ททท.แจงแล้วกระทบท่องเที่ยว

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

หัวหิน!!! ตั้งศูนย์ฯรับมือ”โคโรน่าไวรัส” ททท.แจงแล้วกระทบท่องเที่ยว

ประจวบโพสต์นิวส์ -นายอำเภอหัวหิน เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน เพื่อสรุปสถานการณ์ และวางมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันไวรัสโคโรนา อำเภอหัวหิน พร้อมระบุหญิงชาวจีนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยจะต้องติดตามอาการของแพทย์ พยาบาล และพนักงานโรงแรมผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แนะมาตรการป้องกันตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาร่างกายให้แข็งแรง

วันที่ 26  มกราคม 2563  ที่ห้องประชุม สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์การป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน อ.หัวหิน โดยมีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วย นายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน ,นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาล,ว่าที่ร้อยตรีกรกฎ โอภาส รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ,นางรสสุคนธ์ เลื่อนศักดิ์ รก.ผอ.กองการแพทย์ ตัวแทนจากสายการบิน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ตำรวจตรวคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธร ตลอดจนตัวแทน โรงแรม รีสอร์ท ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ในอำเภอหัวหินที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีข้อมูลพบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงชาวจีน เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยเป็นระดับผู้บริหารของโรงพยาบาล เดินทางมาพร้อมเพื่อนหญิง มาลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ และเช่าเหมารถแท๊กซี่ให้มาส่งที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหัวหิน เพื่อท่องเที่ยว และมาพบกับเพื่อนชาวจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่หัวหิน จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม 2563 หญิงชาวจีน อายุ 73 ปีมีอาการป่วยเป็นไข้ และเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล กรุงเทพ หัวหิน โดยทางโรงพยาบาลหัวหิน หลังมีการตรวจอาการและทราบว่าเป็นชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น จึงรายงานให้กับทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหัวหิน และสำนักงานสารธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลหัวหิน ให้รับทราบ หลังจากนั้นทีมสอบสวนโรคจึงเดินทางมาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน และติดตามอาการพร้อมเฝ้าระวัง และเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการในส่วนกลาง และขณะนี้ยืนยันว่าผู้ป่วยรายดำลังกล่าวมีอาการดีขึ้น ส่วนเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกัน ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่และทีมสอบสวนโรคคอยติดตามอาการซึ่งล่าสุดพบว่าอาการยังผกติ ส่วนกลุ่มเพื่อชาวจีนที่มาพบกันที่หัวหิน ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯไปแล้ว  ส่วนเรื่องผู้ต้องสงสัยหญิงชาวจีนวัย 73 ปีที่เข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน นั้น กรณีว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่นั้นขอให้รอฟังจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป เนื่องจากฝ่ายปกครองไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้

ด้านนายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์  ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน กล่าวในที่ประชุมว่าสำหรับชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหัวหิน  ตอนที่เข้ามาไม่พบมีอาการป่วย แต่หลังจากมาพักที่หัวหินแล้วพบว่ามีอาการป่วย จึงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลในเมืองอูฮั่น เมื่อพบว่ามีอาการป่วยจึงต้องมีการเฝ้าระวัง โดยทางกระทรวงสาธารณสุขเรามีความตะหนักในการป้องกันและการแพร่กระจายเชื้อ    ดังนั้นขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกในตรงนี้ จึงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากผู้ป่วยมาจากเมืองอู่ฮั่น เป็นเมืองที่มีผู้ป่วยเกิดขึ้นและเข้ามา มีอาการไข้เกิน 39 องศาเซลเซียส ทำให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องเข้าไปควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรค ในส่วนของผล การยืนยันว่าป่วยหรือไม่ป่วย ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ออกมาแถลงการณ์อีกครั้ง ณ วันนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่ามีผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนา

ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข ได้ดำเนินการควบคุมโรคเพื่อให้ให้มีการแพร่กระจายไปสู่ชาวหัวหิน ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้คำแนะนำผู้สัมผัสต่างๆทั้งโรงแรม และที่โรงพยาบาล   แต่ในส่วนของว่าผู้ป่วยเดินทางไปเที่ยวจุดใดบ้างของอำเภอหัวหิน ยังติดขัดปัญหาในด้านการสื่อสารทรางภาษกันอยู่  ดังนั้นจึงฝากประชาชนชาวหัวหิน ว่าเราต้องตระหนักในการป้องกันตนเองในการป้องกันไข้หวัดธรรมดา เน้นมาตรการคือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคภายนอกเข้าสู่ตัวเรา

หลังเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่าสิ่งที่ต้องดำเนินการคือเรื่องของการรณรงค์ให้ตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งที่ชาวจีนมักเดินทางไป ทั้งสถานีรถไฟหัวหิน ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตลาดซิเคด้าเขาตะเกียบ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมกันออกรณรงค์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและขอให้ทุกคนช่วยกันป้องกันโดยการใส่หน้ากากอนามัย และบางจุดที่เป็นห้องน้ำสาธารณะในส่วนต่างของให้มีเจลล้างมือ รวมทั้งให้ดำเนินการจุดตรวจวัดไข้เหมือนท่าอากาศยานซึ่งจุดนี้คงต้องให้ทางสาธารณสุขเนื่องจากจะมีเครื่องมือ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว ในส่วนของการแถลงผลต่างๆและการยืนยันจะเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข  ส่วนตนเองไม่ขอก้าวล่วง และได้ตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันไวรัสโคโรนา อำเภอหัวหิน โดยหน่วยงานต่างๆจะต้องรายงานผลความคืบหน้าต่างๆมาที่ศูนย์ก่อนเวลา 17.00 น.ของทุกวัน โดยหลังจากนั้นนายอำเภอหัวหิน จะสรุปข้อมูลทั้งหมดเผยแพร่ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งสื่อมวลชน เพื่อเป็นข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตามตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความกังวลในเรื่องของชาวจีนที่เดินทางเข้ามาที่หัวหิน และเข้าพักตามอพาร์ตเม้นท์ บ้านพักพูลวิลล่า ที่ไม่มีการแจ้งเข้ามาในระบบ ดังนั้นมาตรการทางกฎหมายในส่วนนี้ เจ้าของบ้าน ผู้ประกอบการ ผู้ครอบครองเคหสถาน จะต้องแจ้งคนต่างด้าวที่เข้าพักภายใน 24 ชั่วโมงตั้งแต่ที่คนต่างด้าวเข้าพักต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  และหากมีการตรวจพบเจ้าของบ้านจะถูกปรับ 2,000 บาท ส่วนโรงแรมตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท/คน

ด้านนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่าเราต้องใช้วิกฤตจุดนี้ให้เป็นโอกาส หัวหินเรามีทุนในท้องถิ่นที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศไทย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างความเชื่อมันให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยการตรวจคัดกรอง ตอนนี้เรามีการตรวจคัดกรองที่ท่าอากาศยานหัวหิน เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นจุดท่องเที่ยวของอำเภอหัวหิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดโต้รุ่ง ห้างสรรพสินค้า  ตลาดซิคด้า  ฯควรจะต้องมีทีมคัดกรอง จัดเจ้าหน้าที่บูรณาการไปดำเนินการตรวจวัดไข้ ตามช่วงเวลาจุดไหนควรเป็นกลางวัน และจุดไหนควรเป็นกลางคืน ซึ่งดำเนินการในช่วงระยะเวลา 10 วันหากไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ก็คงกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้

ว่าที่ร้อยตรีกรกฎ โอภาส รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์  กล่าวในที่ประชุมว่า ขณะนี้บริษัททัวร์ในประเทศจีนได้หยุดให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา จากเดิมในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 3 แสนคนเข้าประเทศไทย  พอเกิดเหตุการณ์ที่จะเรียกว่าวิกฤต 3 เดือนนับจากนี้ประเทศจีนจะใช้มาตรการหยุดให้บริษัททัวร์ขาย แต่คนที่จะเดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่ม SME และนักธุรกิจ คาดว่าเราจะสูญเสียนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ล้าน 9 แสน 8 หมื่นคน ช่วงตั้งแต่ตรุษจีนถึงเดือนเมษายนนี้ หัวหินก็คงจะได้รับผลกระทบไปด้วย ชาวจีนจะหายไปมากว่า 4,000 คน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทาง ททท.มีแนวทางที่จะต้องการสื่อสาร บางครั้งคนที่รับรู้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ก็จะเชื่อสื่อทางบุคล หรือทางโซเชียลไปรวดเร็วมาก ดังนั้นตนเองเห็นด้วยกับแนวทางของสื่อมวลชนที่จะเสนอก ให้มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีอำนาจสามารถให้ข้อมูลข่าวสารได้เพียงท่านเดียว เหมือนกับเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน  มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แถลง เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารมีความถูกต้องมาจากหน่วยงานของภาครัฐที่เชื้อถือได้ สร้างความเชื่อมั่น  ซึ่งทาง ททท.ประเมินว่าหากปล่อยไว้ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น จะส่งผลกระทบถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย  โดยเฉพาะข่าวที่ได้ยินมา การเต้าข่าว การแชร์ข่าว ด้วยความสนุกสนาน จะเกิดผลกระทบกับเมืองหัวหิน ในระยะยาว ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลทาง ททท.ว่าไปเที่ยวได้หรือไม่อย่างไร ทางเราเองยอมรับว่าให้ความมั่นใจไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้นจึงเห็นว่าทางอำเภอควรที่จะจัดตั้งศูนย์ หรือการให้ข้อมูลที่ชัดเจน อย่างที่ผ่านมามีการให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยอยู่อีกโรงพยาบาล วันนี้พบว่าข้อมูลเป็นอีกโรงพยาบาล แต่สำนักข่าว หรือแต่ละช่องให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมือนกัน การปกปิดข้อมูลไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงหวังว่าการที่สื่อเสนอให้มีการให้มีผู้มีอำนาจให้ข่าวนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่ดี หากในที่ประชุมเห็นด้วยก็จะดีเราจะได้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียว เพราะที่ผ่านมาปัญหาการสื่อสาร

อย่าลืม!!!

ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper

?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/prachuappost/

https://www.facebook.com/prachuppost/

***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/groups/387550115078888/

…………………………………………………………………………

ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน

Website: http://www.prachuppostnews.com/

YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…

Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews

IG : www.instagram.com/ prachuppostnews