ห้ามติดเครื่อง-เปิดแอร์รอนาย ยัน!! รัฐบาลทำทุกมาตรการไม่ได้แค่ฉีดน้ำอย่างเดียว
นายกฯ กำชับรถจอดสถานที่ราชการห้ามติดเครื่อง-เปิดแอร์รอนาย ยัน!! รัฐบาลทำทุกมาตรการไม่ได้แค่ฉีดน้ำอย่างเดียว
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละอองในกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังสื่อมวลชนเสนอข่าวรถในขบวนติดตามรัฐมนตรีติดเครื่องยนต์ขณะจอดรอในทำเนียบรัฐบาลว่า ได้ย้ำในที่ประชุม ครม.ไปแล้วว่า หน่วยงานราชการไม่ต้องติดเครื่องรอนาย รถของตนก็สั่งไม่ต้องติดเครื่องรอ เพราะเหม็นและเปลืองน้ำมัน เครื่องยนต์เสื่อมโดยใช่เหตุ เปิดแอร์นั่งรอนานไม่ให้ทำ ทำเป็นตัวอย่างไปแล้วและทุกคนต้องช่วยกันด้วย แต่ก็มีรถอื่นๆ ที่ติดเครื่องรอนานๆ ทั้งแท็กซี่ รถเมล์ รถขนส่งมวลชนทั้งหมด ถ้าถามว่าหยุดทั้งหมดทำได้ไหมก็ไม่ได้ ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในระหว่างนี้ ทั้งนี้หากไปกำหนดบทลงโทษจะยุ่งไปกันใหญ่ ออกกฎหมายมาทุกตัว พอปฏิบัติไม่ได้ก็เดือดร้อนกันอีก ต้องช่วยกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ออก 9 มาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหา ดังนั้นอย่าให้ใครมาบิดเบือนไม่ทำอะไรเลย หรือรัฐบาลฉีดน้ำอย่างเดียวใช่ที่ไหน รัฐบาลทำหลายอย่างแต่ต้องร่วมมือกัน ส่วนการใช้โดรนพ่นน้ำบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองหลายคนถามว่าจะได้ประโยชน์อะไร ตรงนี้เป็นการทดลองนำสิ่งที่วิจัยพัฒนาในวันหน้า มาทดลองวันนี้หากมีการใช้ปริมาณเยอะขึ้นเป็นอย่างไร วันนี้สมาคมโดรนได้ให้ความร่วมมือทดสอบแก้ปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่จำกัดไม่กว้างเกินไปที่มีความสูงระยะ 25 เมตร ซึ่งน้ำไม่สามารถฉีดถึงได้ ปรากฎว่าเมื่อนำเครื่องมือของกรมควบคุมมลพิษไปวัดสามารถลดฝุ่นละอองได้ สมมุติจาก 70 มคก./ลบ.ม. เหลือ 50 มคก./ลบ.ม.อย่างประเทศจีนนำโดรนมาใช้เอาน้ำลงมา รวมถึงการใช้สารเคมีด้วยโดยต้องตรวจสอบว่าใช้สารเคมีอย่างไรกำลังค้นหาอยู่ หลายอย่างต้องมีการวิจัยและพัฒนา ติติงว่าเป็นการหลอกลวงไม่ได้ ทุกอย่างเกิดจากการทดลอง เราต้องหาหลายมาตรการในการทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลัง นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง โดยออก 9 มาตรการเร่งด่วน ซึ่งในข้อ 8 ระบุว่า “รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่ที่มีมลพิษสูง” แต่ปรากฏว่า แทบทุกครั้งที่มีการประชุมภายในทำเนียบรัฐบาล และการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รถยนต์ของผู้ติดตามและรถติดตามขบวนของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จะถูกนำมาจอดที่โรงจอดรถและบริเวณที่จอดรถข้างตึกบัญชาการ 1 โดยผู้ติดตามมักจะนั่งรอภายในรถ และสตาร์ทเครื่องยนต์รอไว้เป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่มีการประชุมครม. ผู้ติดตามจะสตาร์ทเครื่องยนต์รอไว้จนกว่าการประชุมครม.จะเลิก เช่นเดียวกับรถตัดสัญญาณการสื่อสารที่จะมาประจำการทุกวันอังคารที่มีการประชุมครม. ซึ่งมาจอดบริเวณข้างห้องปฏิบัติการสื่อทำเนียบฯ ก็ได้สตาร์ตเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละออง ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่ยังเกินค่ามาตรฐานใน 40 พื้นที่
