ฮือฮา! ดาวเคราะห์น้อย ‘หัวกะโหลกยักษ์’ เข้าใกล้โลก พ.ย.นี้

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
    7
    Shares

ฮือฮา! ดาวเคราะห์น้อย ‘หัวกะโหลกยักษ์’ เข้าใกล้โลก พ..นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดาวเคราะห์น้อย ‘2015 TB145’ ขนาดกว้าง 640 .กำลังจะเคลื่อนตัวผ่านใกล้โลกของเราอีกครั้งในปีหน้า หลังจากมันเคยเคลื่อนตัวผ่านเข้าใกล้โลกมาแล้วเมื่อ 31 .. ปี 2558 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์พบว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีลักษณะคล้ายกับหัวกะโหลกขนาดใหญ่ จนทำให้มันได้ชื่อเล่นคือ ‘ดาวเคราะห์น้อยฮัลโลวีน’ ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่ ด้วยภาพถ่ายที่ออกมาไม่ชัดเจน เห็นเป็นรอยหลุมอุกาบาตขนาดใหญ่ 2 รอย ทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ มีรูปร่างหน้าต่างคล้ายหัวกระโหลก

โดย 2015 TB145 เป็นดาวเคราะห์น้อย มีวงโคจรแบบ อพอลโล (Apollo) ค้นพบด้วยกล้องดูดาวแพนสตาร์ในเดือนตุลาคม 2015 ผลการตรวจสอบในอดีตยังพบว่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีสะท้อนแสงอาทิตย์เพียง 5-6% ของแสงที่ตกกระทบหรือมากกว่าถ่านหินเพียงเล็กน้อย ทำให้มันมืดมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เกือบทั้งวงโคจรอยู่ต่ำกว่าเส้นสุริยวิถี ทำให้เราสังเกตดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ก็ต่อเมื่อมันเข้ามาใกล้โลก

หลังจากนั้นก็ได้มีผู้วาดภาพ 2015 TB145 ขึ้นมาใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์ ตกแต่งจนดูคล้ายหัวกระโหลกมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งทฤษฎีว่า 2015 TB145 อาจเป็นดาวหางมาก่อน แต่สูญเสียน้ำและองค์ประกอบอื่นไปหมดแล้วระหว่างที่มันโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3.04 ปี ซึ่งหมายความ มันจะเคลื่อนตัวผ่านโลกอีกครั้งในช่วงกลางเดือนพ.. 2561

อย่างไรก็ตาม พาโบล ซานโตสซานซ์ นักดาราศาสตร์ของสถาบันดาราศาสตร์แห่งอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ยอมรับว่า การเคลื่อนตัวผ่านที่กำลังจะเกิดขึ้น 2015 TB145 จะไม่เข้าใกล้โลกเท่าปี 2558 (ราว 480,000 กม.) แต่นี่ยังเป็นโอกาสพวกเขาสามารถเก็บรวบรวมใหม่ๆ ที่ช่วยให้รู้จักดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มากขึ้นได้

โดยวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันครบรอบ 3 ปีที่ 2015 TB145 จะโคจรเข้ามาเฉียดโลกอีกครั้ง ในระยะ 39,000,000 กิโลเมตร โดยไม่มีอันตรายใดๆ รวมถึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้น ดาวเคราะห์น้อยหัวกระโหลก ก็จะจากไปอย่างเงียบๆ และจะได้พบมันใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้านั่นเอง นอกจากนี้ดาวเคราะห์หัวกระโหลก เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับความเชื่อหรือหายนะใดๆ ตามที่มีกระแสข่าว

ขอบคุณภาพ JA PENAS/SINC และ NAIC-ARECIBO/NSF

 

  • 7
    Shares