ปิดอุทยานฯกุยบุรีกว่า 1 เดือน ส่งผลดีต่อช้าง-กระทิง

ติดตามข่าว ประจวบโพสต์
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ปิดอุทยานฯกุยบุรีกว่า 1 เดือน ส่งผลดีต่อช้าง-กระทิง

ประจวบคีรีขันธ์ -ถึงแม้ว่า 1 เดือนที่ผ่านกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าละพันธุ์พืช จะประกาศงดกิจกรรมท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศไทย ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19  นั้นวันนี้โขลงช้างและฝูงกระทิง  รวมแล้วกว่า 200 ตัว ต่างพากันออกมามาหากินตามแปลงพืชอาหารสัตว์ป่าที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆกว่า 2,000 ไร่

วันที่ 27 เมษายน 2563  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังมีการปิดการท่องเที่ยวมานานกว่า 1 เดือน โดยได้มีโอกาสพบกับนายรักพงษ์ บุญย่อย หน.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  ได้พาลงพื้นที่บริเวณจุดชมสัตว์ป่าในหลายจุด ก็พบว่ามีทั้งโขลงช้างป่าที่ต่างพาครอบครัว  และลูกน้อยออกจากป่า    ไปหากินอยู่ในแปลงหญ้าที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆกว่า 2,000 ไร่

บางจุดพบครอบครัวช้างซึ่งมีลูกเดินคลอเคลียตามกันมาติดๆ พากันมุ่งไปยังบ่อน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ซึ่งมีการขุดกักเก็บน้ำเอาไว้ให้สัตว์ป่าเช่นกัน  โดยที่โขลงช้างป่าพากันเดินลงไปในบ่อน้ำและใช้งวงสูบน้ำเข้าปาก บ้างก็พากันดำผุดดำว่ายกันอย่างสนุกสนานก่อนที่พวกมันจะพากันขึ้นจากบ่อน้ำและไปหากินอาหารตามแปลงหญ้าต่างๆ

ไม่เพียงแต่โขลงช้างป่าเท่านั้น     ฝูงกระทิงที่มีอยู่ในพื้นที่ราวกว่า 300 ตัว ช่วงนี้ก็สามารถพบเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นกระทิงโทน ตัวขนาดใหญ่ที่หากินอยู่แบบเดี่ยวๆก็มีให้เห็น รวมไปถึงบางฝูงก็มีตั้งแต่ 20-50 ตัว ก็ออกมาหากินโดยมีลูกกระทิงที่ตามออกมาเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะเห็นได้ว่าจะมีกระทิงฝูงใหญ่ 80 ตัวขึ้นไปก็มี  บางฝูงเมื่อมันได้ยินเสียงผิดปกติก็จะพากันกระโจนวิ่งกลับเข้าป่าไปในทันที  แต่หากเมื่อความเงียบกลับมาฝูงกระทิงเหล่านี้ก็จะกลับออกมาหากินอีกครั้งไปจนถึงรุ่งเช้า

นายรักพงษ์  บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  กล่าวว่าทั้งโขลงช้าง ฝูงกระทิง พากันกินหญ้าในช่วงนี้กันอย่างมีความสุข      ปราศจากการรบกวนของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด มีก็เพียงเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเท่านั้นที่ยังต้องแบ่งกันออกดูแลให้ความปลอดภัย และติดตามบันทึกภาพของสัตว์ป่าตามจุดชมช้างและกระทิงตามจุดต่างๆเพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูล    เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีการประกาศปิดอุทยานแห่งชาติมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม จนถึงเวลานี้ด้วยสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19  ก็ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว

นายรักพงษ์  บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี   กล่าวว่าที่ผ่านมาเกิดฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปีนี้อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเจอสภาพวิกฤตแปลงหญ้ากว่า 2,000 ไร่พืชอาหารสัตว์ป่าที่ปลูกเอาไว้ได้รับผลกระทบอย่างหนักแปลงหญ้ากลายสภาพเป็นสีน้ำตาล ลำธารแห้งขอดส่งผลกระทบช้างป่าและกระทิง กว่า 600 ตัว หายกลับเข้าป่าลึกไป  หลังจากนั้นในช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อนเกิดฝนตกลงมาในพื้นที่นานนับสัปดาห์ ส่งผลให้ผืนป่ากุยบุรี กลับฟื้นความอุดมสมบูรณ์เขียวขจีกลับมาอีกครั้ง   ทุกวันพบปริมาณสัตว์ป่าทั้งช้างและกระทิง  กลับมาหาหินตามแปลงหญ้าและจุดชมสัตว์ป่าต่างๆเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน และสิ่งสำคัญพบว่าสัตว์ป่าที่ออกมาหากินใช้เวลานานจากเดิมจะพบเห็นสัตว์ป่าในช่วงเย็น ในช่วงที่มีการเปิดการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าและไม่มีปริมาณมากเหมือนช่วงที่มีการปิด ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกและยืนยันได้ถึงการที่ธรรมชาติได้กลับคืนมาและปราศจากการรบกวนจนทำให้มีช้าง และกระทิง รวมทั้งลูกช้าง ลูกกระทิง ออกมาให้เก็นเป็นจำนวนมากในเวลานี้    ซึ่งข้อมูลการสำรวจที่มีการจัดเก็บในทุกวันจะนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า เมื่อมีการประกาศเปิดอุทยานในโอกาสต่อไป

อย่าลืม!!!

ติดตามข่าวสารจาก Face book : Prachuppost Newspaper

?กดติดดาว ⭐️ เพจ …จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเรา…ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/prachuappost/

https://www.facebook.com/prachuppost/

***กดเข้ากลุ่ม ???? กับ ประจวบโพสต์นิวส์ ได้ที่นี่

https://www.facebook.com/groups/387550115078888/

…………………………………………………………………………

ติดตาม #ประจวบโพสต์นิวส์ #Prachuppostnews ได้ใน

Website: http://www.prachuppostnews.com/

YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCXnxGL0eeJZsm6vNRqaSUVA…

Twitter: https://twitter.com/prachuppostnews

IG : www.instagram.com/ prachuppostnews